หมวดสินค้าของเรา
  - กีต้าร์ไฟฟ้า (Electric guitar)
  - กีต้าร์โปร่ง (Folk guitar)
  - กีต้าร์คลาสสิก (Classic guitar)
  - เบส (Bass)
  - อะไหล่และชิ้นส่วนกีต้าร์
  - ตู้แอมป์กีต้าร์และเบส (Amplifier)
  - Effect
  - เครื่องเสียงและลำโพง
  - Piano and key board
  - สินค้าอื่นๆ เกี่ยวกับดนตรี
  - สินค้าอื่นๆ (นอกจากเครื่องดนตรี)
  - บริการซ่อมและปรับแต่งกีต้าร์
  - ดูทุกหมวด

ความรู้และเทคนิค
  - บทความเกี่ยวกับกีต้าร์
  - ความรู้เกียวกับการซ่อมกีต้าร์

ข้อมูลที่น่าสนใจ
  - เกี่ยวกับเรา
  - ติดต่อเรา
  - การชำระเงิน
  - แผนที่ & การเดินทาง

เข้าสู่ระบบ
  - Login เข้าสู่ระบบ




เสียงกีตาร์จากไม้ชนิดต่างๆ


พูดถึงเรื่องไม้ที่นำมาใช้ทำกีตาร์กับเสียงของไม้ชนิดต่างๆก่อนนะครับ เรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการจะซื้อกีตาร์มาเล่นเอง

กีตาร์ ที่เราใช้โดยส่วนใหญ่นั้นมักมีส่วนประกอบทำมาจากไม้กันทั้งนั้น ซึ่งไม้แต่ละชนิดจะมีลักษณะของลายด้านความสวยงาม และให้เสียงที่มีลักษณะแตกต่างกันไป เราลองมาทำความรู้จักกับไม้ชนิดต่างๆดูกันสักหน่อยดีไหมครับ? เผื่อว่าจะได้พบกับกีตาร์ในฝัน ทั้งความสวยงาม และสุ้มเสียง

Alder (Alnus Rubra) เป็นไม้ที่ถูกนำมาใช้ในการสร้างลำตัวกีตาร์กันอย่างแพร่หลาย เพราะว่ามีน้ำหนักค่อนข้างเบา และให้เสียงที่ออกเต็ม ทั้งทุ้ม กลาง แหลม ส่วนเสียงกลางจะออกเบากว่าโทนเสียงอื่นเล็กน้อย จึงทำให้โทนเสียงโดยรวมเป็นเสียงที่หวานกลมกล่อมอย่างลงตัว เนื่องจากมีลายเสี้ยนที่อยู่ชิดกันจึงทำให้สามารถทำสีได้อย่างสะดวก สีของไม้แท้ๆจะมีสีน้ำตาลอ่อน ลวดลายของวงปีจะคล้ายๆกัน ไม่มีแปลกแยกเท่าใดนัก เป็นไม้หลักที่ Fender นำมาใช้ทำลำตัวมาอย่างยาวนาน ให้ความสวยงามในการทำสีทั้งแบบ Naturel Sunburst และสีทึบ 
ลักษณะสีธรรมชาติของไม้ชนิดนี้


ถ้านำมาทำกีตาร์ก็จะได้ลักษณะนี้ครับ



ลองมาฟังเสียงที่ได้จากไม้ Alder ดูครับ


Ash (Fraxinus Americana) นิยมใช้กัน 2 ชนิดคือ Northern Hard Ash กับ Swamp Ash (Southern Soft Ash) ชนิด Hard Ash จะมีเนื้อที่แข็ง หนัก และแน่นกว่า ด้วยเนื้อที่แน่นนั้นทำให้เสียงที่ได้มีความใส และค้างยาว จึงเป็นที่นิยมกัน สีตามธรรมชาติจะเป็นสีครีม แต่บริเวณแกนอาจมีสีอมชมพูจนถึงน้ำตาลได้
มีรูเสี้ยนค่อนข้างห่าง ทำให้เวลาทำสีต้องใช้เวลามากในการทำสีกลบรูเสี้ยนจนเต็มเพื่อผิวที่เรียบ ส่วนชนิด Swamp Ash นั้นจะมีราคาที่ย่อมเยาลงมาหน่อย เป็นไม้ที่ให้เสียงที่เป็นดนตรี ให้ความสมดุลระหว่างเสียงที่ใสกับอบอุ่นได้อย่างลงตัว มีความนุ่มนวลระรื่นหู เนื่องจากมีน้ำหนักที่เบากว่าจึงทำให้เป็นที่นิยมมากกว่า Fender ในยุค '50s นั้นจะทำมาจาก Swamp Ash เป็นส่วนใหญ่ เนื้อไม้ธรรมชาติมีลายวงปีจะขึ้นชัดเจนสีครีม เป็นไม้ที่นิยมนำมาทำสีแบบใสมองทะลุเห็นเนื้อไม้ 
ลักษณะสีธรรมชาติของไม้ชนิดนี้


ถ้านำมาทำกีตาร์ก็จะได้ลักษณะนี้ครับ


ลองมาฟังเสียงที่ได้จากไม้ Ash ดูครับ


Basswood (Tilia Americana) เป็นไม้ที่มีน้ำหนักเบา เนื้ออ่อน เนื้อไม้มีสีขาวและ มีจุดสีเขียวปนอยู่บนเนื้อด้วย มีเสี้ยนที่อยู่ชิดกัน สามารถดูดซับสีได้หลากหลาย
รูปแบบ แต่ไม่เหมาะกับการทำสีแบบใส ให้เสียงที่ออกไปทางอบอุ่น เป็นไม้ที่ Ibanez นิยมนำมาทำลำตัวกีตาร์มากกว่าใคร
ลักษณะสีธรรมชาติของไม้ชนิดนี้


ถ้านำมาทำกีตาร์ก็จะได้ลักษณะนี้ครับ

ลองมาฟังเสียงที่ได้จากไม้ Basswood ดูครับ


Bubinga (Guibourtia Demeusei) เป็นไม้เนื้อแข็ง นิยมนำมาทำคอของ Bass และปะหน้าเพื่อความสวยงาม ใช้ทำ Fretboard ของกีตาร์ Rickenbacker
ส่วน Warwick นำมาทำลำตัวเบส สำหรับการใช้ทำคอจะให้เสียงกลางที่สดใส และเสียงทุ้มที่หนาดีมาก เนื่องจากมีน้ำหนักมากจึงนิยมนำมาใช้ปะเป็นไม้หน้าของกีตาร์เท่านั้น
ลักษณะสีธรรมชาติของไม้ชนิดนี้
 
ถ้านำมาทำกีตาร์ก็จะได้ลักษณะนี้ครับ


ลองมาฟังเสียงที่ได้จากไม้ Bubinga ดูครับ


Goncalo Alves (Astronium Fraxini Folium) เป็นไม้เนื้อแน่น และเรียบ
ผิว เป็นมันลื่น อยู่ได้โดยไม่ต้องทำสีทับ เนื้อไม้มีสีน้ำตาลสลับลายสีช็อคโกแลตเข้ม บริษัท Smith&Wesson ใช้เป็นไม้ทำด้ามปืน (เกี่ยวกันไหมเนี่ย!) เนื้อไม้ให้เสียงที่อบอุ่นและสะอาด ส่วนใหญ่จะใช้ทำคอ และปะหน้าลำตัว
ลักษณะสีธรรมชาติของไม้ชนิดนี้

ถ้านำมาทำกีตาร์ก็จะได้ลักษณะนี้ครับ

ลองมาฟังเสียงที่ได้จากไม้ Goncalo Alves ดูครับ


Koa (Acacia Koa) ถ้าใครยังจำกีตาร์ของคุณ Pop(The Sun) ในยุคที่เป็นหิน เหล็ก ไฟ ได้ กีตาร์ตัวนั้นใช้ไม้ชนิดนี้ครับ เป็นไม้ที่มีลายสวยงาม แหล่งผลิตหลักคือเกาะฮาวาย แต่มีออกมาในจำนวนจำกัด เนื้อไม้มีน้ำหนักไม่คงที่อยู่ในช่วงหนักปานกลางจนถึงหนักมาก ให้เสียงที่ดีมากในการใช้ทำลำตัวของเบส เป็นไม้ที่ให้เสียงอบอุ่นแบบเดียวกับ Mahogany แต่จะมีความใสมากกว่านิดหน่อย สามารถเคลือบด้วยน้ำมันได้ แต่จะดูดีกว่าถ้าทำสีแบบใส 
ลักษณะสีธรรมชาติของไม้ชนิดนี้

ถ้านำมาทำกีตาร์ก็จะได้ลักษณะนี้ครับ

ลองมาฟังเสียงที่ได้จากไม้ Koa (Acacia Koa) ดูครับ


Figured Koa (Acacia Koa) มีความสวยงามแตกต่างออกไปตรงมีลายขวาง (Flame) นิยมใช้เป็นไม้ปะหน้าแบบบาง ซึ่งเสียงก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจาก Koa 
ลักษณะสีธรรมชาติของไม้ชนิดนี้

ถ้านำมาทำกีตาร์ก็จะได้ลักษณะนี้ครับ


Korina, Black (Terminalia Superba) ชื่อจริงๆคือ Limba จากแอฟริกา มีน้ำหนักปานกลาง ให้เสียงที่อบอุ่นแบบเดียวกับ Mahogany บางครั้งจะพบที่มีสีเขียวมะกอกปนเสี้ยนสีดำ เป็นไม้ที่นิยมนำมาทำเบส ผิวให้ความรู้สึกมันลื่น
ใช้วิธีเคลือบน้ำมันจะดีกว่าการทำสีทับ
ลักษณะสีธรรมชาติของไม้ชนิดนี้

ถ้านำมาทำกีตาร์ก็จะได้ลักษณะนี้ครับ

ลองมาฟังเสียงที่ได้จากไม้ Korina, Black ดูครับ



Korina, White (Terminalia Superba) ชื่อจริงๆคือ Limba จากแอฟริกา มีน้ำหนักปานกลางจนถึงหนักมากมาก ให้เสียงที่อบอุ่นแบบเดียวกับ Mahogany บางครั้งจะพบที่มีสีเขียวปนเหลืองอ่อน ซึ่งจะดูดีมากหากย้อมด้วยสีเหลือง เป็นไม้ที่นิยมนำมาทำเบส ผิวให้ความรู้สึกมันลื่น ใช้วิธีเคลือบน้ำมันจะดีกว่าการทำสีทับ
ลักษณะสีธรรมชาติของไม้ชนิดนี้

ถ้านำมาทำกีตาร์ก็จะได้ลักษณะนี้ครับ

ลองมาฟังเสียงที่ได้จากไม้ Korina, White ดูครับ


Lacewood (Cardwellia Sublimis) เป็นไม้ที่มีกำพืดอยู่ใน Australia มีน้ำหนักปานกลาง ลายของไม้จะเป็นจุดตั้งแต่เล็กไปจนถึงใหญ่ในแบบเฉพาะตัว ให้ความสวยงามมากในการนำมาปะด้านหน้าแบบเข้าคู่กัน ให้เสียงในแบบเดียวกับ Alder
ลักษณะสีธรรมชาติของไม้ชนิดนี้

ถ้านำมาทำกีตาร์ก็จะได้ลักษณะนี้ครับ

ลองมาฟังเสียงที่ได้จากไม้ Lacewood ดูครับ


Mahogany (Khaya Ivorensis) เป็นไม้ที่มีความหนักปานกลางจนถึงหนักมาก
มีเสี้ยนที่ละเอียด ให้เสียงอบอุ่น เต็ม และค้างยาว เสี้ยนมีรูพรุนแต่ทำสีปิดง่าย
ให้ความสวยงามพอใช้ในการทำสีแบบใส จะดูดีกว่าเมื่อทำสีแบบแดงใส 
ลักษณะสีธรรมชาติของไม้ชนิดนี้

ถ้านำมาทำกีตาร์ก็จะได้ลักษณะนี้ครับ

ลองมาฟังเสียงที่ได้จากไม้ Mahogany ดูครับ


Maple (Acer Saccharum-Hard Maple)(Acer Macrophyllum-Pacific Maple) มีอยู่สองชนิดคือ Eastern Hard Maple (hard rock maple) กับ Western Soft Maple (Maple ใบใหญ่) Hard Maple เป็นไม้เนื้อแข็ง หนัก และเนื้อแน่น นิยมนำมาทำคอกีตาร์ ลายเสี้ยนจะอยู่ชิดกัน ทำสีได้ง่าย เสียงจะมีความใสและค้างยาวมาก ปนฮาร์โมนิคแหลมๆ เป็นไม้ที่ย้อมสีไม่ได้ เหมาะกับการทำสีแบบใส Soft Maple มีน้ำหนักเบากว่าแต่มีสีขาวเหมือนกัน ให้เสียงที่สดใส ปนแหลม และมีหัวเสียง เนื้อไม้มีความเหนียวมากกว่า Hard Maple ที่เปราะกว่า
ลักษณะสีธรรมชาติของไม้ชนิดนี้

ถ้านำมาทำกีตาร์ก็จะได้ลักษณะนี้ครับ

ลองมาฟังเสียงที่ได้จากไม้ Maple ดูครับ


Birdseye Maple (Acer Saccharum-Hard Maple) ไม้แบบนี้พบได้จาก Hard Maple จะเป็นตาจุดๆแถวๆรอบนอกของลำต้นเท่านั้น นิยมใช้เป็นไม้ปะหน้าของลำตัว
ลักษณะสีธรรมชาติของไม้ชนิดนี้

ถ้านำมาทำกีตาร์ก็จะได้ลักษณะนี้ครับ


Flame Maple (Acer Macrophyllum-Pacific Maple) เรียกกันไปต่างๆนาๆ ไม่ว่าจะเป็น ลายเพลิง หรือลายเสือ เป็นต้น มีลายตามขวางที่ชัด เป็นริ้วยาว นิยมใช้เป็นไม้ปะหน้าทั้งแบบ 1 ชิ้น และ 2 ชิ้น แต่ต้องเป็นแบบจับเข้าคู่กัน
ลักษณะสีธรรมชาติของไม้ชนิดนี้

ถ้านำมาทำกีตาร์ก็จะได้ลักษณะนี้ครับ


Quilted Maple (Acer Macrophyllum-Pacific Maple) จะมีลายขวางแบบบิดไปบิดมาเป็นคลื่นๆ มองดูเหมือนปุยเมฆ หรือคล้ายข้าวโพดคั่ว เป็นไม้ที่ค่อนข้างหายาก รูปร่างของลายมีแตกต่างกันไป ส่วนใหญ่ก็จะนำมาใช้ปะหน้าลำตัวเช่นเดียวกัน
ลักษณะสีธรรมชาติของไม้ชนิดนี้

ถ้านำมาทำกีตาร์ก็จะได้ลักษณะนี้ครับ


Spalted Maple (Acer Macrophyllum-Pacific Maple) ไม้แบบนี้ส่วนใหญ่มักจะมาจากต้นไม้ที่ยืนตาย เส้นสีเข้มๆนั้นจะเกิดมาจากเชื้อรา เป็นไม้เนื้ออ่อนนิยมนำมาปะหน้าลำตัวแบบ Flat top เวลาทำสีจะค่อนข้างลำบากและเปลืองเพราะดูดสีมาก จะดูดีมากกับสี Tobacco Burst 
ลักษณะสีธรรมชาติของไม้ชนิดนี้

ถ้านำมาทำกีตาร์ก็จะได้ลักษณะนี้ครับ


Burl Maple (Acer Macrophyllum-Pacific Maple) มีลายที่ดูยุ่งเหยิงพอสมควร และมักจะพบรูกับรอยแยกปนอยู่ด้วย การอุดช่องว่างนั้นสามารถใช้ Epoxy อุดได้ มักใช้เป็นไม้ปะหน้า และนิยมทำสีแบบใส 
ลักษณะสีธรรมชาติของไม้ชนิดนี้

ถ้านำมาทำกีตาร์ก็จะได้ลักษณะนี้ครับ


จากที่กล่าวมา Meple ทุกสายพันธุ์ให้เสียงแบบเดียวกันหมด

โร สวู๊ด Rosewood นี่ ถือเป็นไม้ที่มีน้ำหนักมากที่สุด ที่ใช้ทำลำตัวของ Strat® ซึ่งก็น่าจะหนักประมาณ 6 ปอนด์ เราใช้ไม้ต่างสายพันธ์หลายชนิดเท่าที่โอกาสจะอำนวย แต่ถ้าจะให้เหนือกว่าคนอื่น เราเลือก พาลิซานเดอร์ เรดวู๊ด ด้วยเสียงที่ อุ่นกว่าเมเปิ้ล แต่ในย่านสูงอาจจะฟังดูซึมๆ อาจจะเนื่องมาจากน้ำมันในเนื้อไม้เองก็เป็นไปได้ การลงสีเคลือบเงาถือว่ายุ่งยากนิดหน่อย
ลักษณะสีธรรมชาติของไม้ชนิดนี้

ถ้านำมาทำกีตาร์ก็จะได้ลักษณะนี้ครับ
]
เนื่องจาก Rosewood เป็นไม้ที่มีนำหนักค่อนข้างมากจึงไม่มีใครนิยมนำมาทำบอดี้กีตาร์นะครับ

อี โบนี่(มะเกลือ)Ebony : ภาพ ที่แสดงให้เห็นคือไม้ แบล็ค อีโบนี่ , ไม้ที่หนักแน่น แต่นุ่มนวล ให้ความรู้สึกลื่นไหลยามสัมผัส เสียงที่สดใสและยืดยาวเป็นพิเศษ, ลายเสี้ยนสีน้ำตาล ช๊อกโกเลท หรือเท่าเข้มนับว่าเป็นสิ่งหายาก เป็นตัวเลือกแรกสุดในการผลิตฟิงเกอร์บอร์ด หรือนำมาผลิตเป็นคอทั้งชิ้นในโอกาสอันพิเศษสุด
ลักษณะสีธรรมชาติของไม้ชนิดนี้


ลองมาฟังเสียงที่ได้จากไม้ Ebony ดูครับ


Poplar (Liriodendron Tulipifera) ไม้ชนิดนี้จัดเป็นไม้ที่ใช้ทำลำตัวมาตรฐานอีกชนิดที่ทางโรงงานต่างๆเลือกใช้ กันมาอย่างช้านาน มีโทนสีเทา/เขียว เนื้อไม้เป็นเสี้ยนละเอียดไม่เป็นหลุมลึก ทำสีได้สะดวกดีจึงนิยมทำสีทึบปิด น้ำหนักของไม้จะหนักกว่า Alder อยู่นิดหน่อย แต่โทนเสียงจะเหมือนกับ Alder
ลักษณะสีธรรมชาติของไม้ชนิดนี้

ถ้านำมาทำกีตาร์ก็จะได้ลักษณะนี้ครับ

ลองมาฟังเสียงที่ได้จากไม้ Poplar ดูครับ


Brazilian Rosewood (Dalbergia Nigra) จัดว่าเป็น Rosewood ชั้นยอดที่มีลายสวยงามมากและแน่นอนว่ามีราคาแพงมากด้วยครับ เป็นไม้ที่มีสี และลายเสี้ยนแตกต่างกันในหลายลักษณะ เนื่องจากหายากและมีราคาแพงจึงนิยมนำมาปะหน้าลำตัวเพื่อความสวยงามเท่านั้น 
ลักษณะสีธรรมชาติของไม้ชนิดนี้

ถ้านำมาทำกีตาร์ก็จะได้ลักษณะนี้ครับ


Sitka Spruce (Picea Sitchensis) ไม้นี้ใช้กันอย่างกว้างขวางกับกีตาร์โปร่งในส่วนของไม้แผ่นหน้า มีน้ำหนักเบาเนื้อละเอียด มีสีขาวครีม นิยมนำมาปะหน้าลำตัวเพื่อความสวยงาม
ลักษณะสีธรรมชาติของไม้ชนิดนี้

ถ้านำมาทำกีตาร์ก็จะได้ลักษณะนี้ครับ

ลองมาฟังเสียงที่ได้จากไม้ Sitka Spruce ดูครับ


Walnut (Juglans Nigra) เป็นไม้เนื้อแข็งและหนัก แต่ยังไม่หนักเท่า Hard Maple ให้เสียงในแนวทางเดียวกัน แต่ไม่เจิดจ้าเท่า Maple มีลายสวยงาม นิยมปิดผิวด้วยการเคลือบน้ำมัน
ลักษณะสีธรรมชาติของไม้ชนิดนี้

ถ้านำมาทำกีตาร์ก็จะได้ลักษณะนี้ครับ

ลองมาฟังเสียงที่ได้จากไม้ Walnut ดูครับ


Figured Walnut (Juglans Nigra) เป็นไม้ลายสวยขึ้นลายเด่นชัด นิยมนำมาปะหน้าลำตัวเพื่อความสวยงาม
ลักษณะสีธรรมชาติของไม้ชนิดนี้

ถ้านำมาทำกีตาร์ก็จะได้ลักษณะนี้ครับ

แน่นอนครับส่วนเสียงที่ได้ก็เสียงเดียวกับ Walnut 

Zebrawood (Microberlinia Brazzavillensis) นี่คือไม้เนื้อหนักอีกชนิดหนึ่ง ลายเสี้ยนเด่นชัดเป็นเส้นสีน้ำตาลอ่อนแก่สะดุดตา น้ำหนักและเสียงจะคล้ายกับ Hard Maple นิยมนำมาปะหน้าลำตัวเพื่อความสวยงาม
ลักษณะสีธรรมชาติของไม้ชนิดนี้

ถ้านำมาทำกีตาร์ก็จะได้ลักษณะนี้ครับ

ลองมาฟังเสียงที่ได้จากไม้ Zebrawood ดูครับ




เขียนเมื่อ 2013-08-18 13:36:02 / จำนวนผู้ชม 5494 คน



Guitar Cafe’ Thailand
 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 11120 สนใจติดต่อ โทร 081-2626817
tag : ขายกีต้าร์มือสอง ,ขายกีต้าร์มือ 2,ขาย guitar มือสอง,ขาย guitar มือ 2,เปียโนมือสอง,เปียโนมือ 2,piano มือสอง,piano มือ 2,ซ่อมกีต้าร์,ซ่อม guitar